ดูดไขมันหุ่นสวยเอว S !!

ดูดไขมันหุ่นสวยเอว S !!

18 ก.พ. 2564   ผู้เข้าชม 563

การดูดไขมันคืออะไร ? 

     การดูดไขมัน (Liposuction) คือ การศัลยกรรมขจัดไขมันส่วนเกินและไขมันสะสมเฉพาะจุดออกจากร่างกาย  รวมไปถึงไขมันในบริเวณที่ไม่สามารถเอาออกได้ด้วยวิธีอื่นๆ และรวมถึงไขมันที่สลายได้ยาก แต่การดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนักแต่อย่างใด จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจอยากลดน้ำหนักหรืออยากผอม นอกจากการดูดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายแล้ว ยังมีการดูดไขมันเพื่อนำมาเติมและปรับรูปหน้า เพิ่มขนาดหน้าอก หรือ เติมในบริเวณที่แพทย์แนะนำ ได้อีกด้วย  ทั้งนี้ทุกขั้นตอนต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
วิธีการดูดไขมัน จะมีวิธีการดูดไขมันโดยการใช้ท่อที่มีขนาดเล็กสอดเข้าไปภายในชั้นผิวหนังและทำการดูดไขมันส่วนเกินนั้นออกมา จุดประสงค์เพื่อต้องการลดปริมาณของไขมันในตำแหน่งที่ต้องการออกไป โดยในปัจจุบันได้มีการพัฒนาและคิดค้นเทคนิคใหม่ๆ ที่จะช่วยทำให้การดูดไขมันสามารถทำได้ง่ายขึ้น  และทำให้แพทย์สามารถทำงานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

 

 

การดูดไขมันมีกี่วิธี ?

     การดูดไขมันในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี มีทั้งการใช้ท่อดูดและใช้พลังงานเลเซอร์ รวมไปถึงการใช้พลังงานแรงดันน้ำ เป็นต้น  อันที่จริงแล้วไขมันในร่างกายมนุษย์โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกัน คือไขมันที่อยู่บริเวณใต้ชั้นผิวหนัง และไขมันที่อยู่ในช่องท้อง ซึ่งไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังนั้นเป็นไขมันที่ส่งผลต่อการกำหนดรูปร่างของเรา ว่าจะมีรูปลักษณ์ในเป็นอย่างไร ซึ่งไขมันในส่วนนี้ เป็นไขมันที่สามารถดูดออกมาได้นั่นเอง  ส่วนไขมันที่อยู่ในช่องท้องเป็นไขมันที่ส่งผลต่ออวัยวะภายใน แพทย์จึงไม่แนะนำในการทำการดูดไขมันส่วนนี้ออกมา ก่อนการดูดไขมันจะมีการวัดมวลไขมันในร่างกาย โดยจะวัดปริมาณรวมของไขมันทั้งหมด แต่ไขมันที่จะถูกดูดออกมาคือไขมันใต้ชั้นผิวหนังเท่านั้น เทคนิคการดูดไขมันที่นิมยมใช้กันในขณะนี้ มีหลากหลายวิธีนิยมแบ่ง และเรียกตามชื่อเครื่องมือที่ช่วยทำการดูดไขมัน เช่น 

 

 

 

การดูดไขมันแบบการใช้ท่อ(SAL : Suction-Assisted Liposuction)

     วิธีการนี้เริ่มมาจากวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ที่ต้องการดูดไขมันอย่างไรให้ได้ปริมาณเยอะขึ้น และใช้ระยะเวลาในการดูดไขมันน้อยลง รวมทั้งในระหว่างทำคนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ และไม่ทำลายเนื้อเยื่อ ไม่ทำลายเส้นเลือด ระบบเส้นประสาทข้างเคียง อีกทั้งหลังทำคนไข้จะไม่มีการบอบช้ำมาก วิธีนี้จึงมีการคิดค้นการฉีดน้ำยาที่ประกอบไปด้วยยาชาและยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัวเข้าไปก่อนการดูดไขมัน หรือเรียกว่า สารทูเมสเซนต์ (tomescent)  เพื่อลดความเจ็บปวดและอาการบอบช้ำหลังดูดไขมันให้กับคนไข้   เทคนิคนี้จะมีการฉีดตัวยาไปพร้อมๆ กับการนำท่อที่มีแรงดูดสุญญากาศมาใช้ในการดูดไขมันร่วมด้วย เราเรีบกการดูดไขมันแบบนี้ว่า  “การดูดไขมันแบบ SAL”  ตามที่กล่าวไปข้างต้น แพทย์จะทำการฉีดน้ำยาเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง จากนั้นจะทำการสอดท่อที่มีแรงดูดสุญญากาศเข้าไป พร้อมใช้แรงมือกระแทกให้เซลล์ไขมันแตกตัวแยกออกจากกัน ในระหว่างที่แพทย์ใช้แรงกระแทกนั้น เซลล์ไขมันที่แตกตัวออกมาก็จะถูกเครื่องดูดทำการดูดไขมันส่วนเกินออกมาโดยอัตโนมัติ   หลังจากแพทย์ทำการดูดไขมันออกมาจากร่างกาย จะทำให้ภายใต้ชั้นผิวของเราเกิดช่องว่าง จึงส่งผลให้เกิดความหย่อนคล้อยของผิวหนัง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีในการดูดไขมันที่สามารถกระชับผิวหนังร่วมด้วย ซึ่งวิธีนี้ยังคงเป็นการดูดไขมันด้วยการใช้ท่อธรรมดา หรือ SAL อยู่ แต่มีการนำการร้อยไหมยกกระชับ เข้ามาช่วยในการยกกระชับผิวให้หย่อนคล้อยน้อยลงด้วยนั้นเอง

 

 

การดูดไขมันแบบดั้งเดิม (Conventional Liposuction หรือ Manual Liposuction)

     เป็นการดูดไขมันที่อาศัยแรงมือของแพทย์เพียงอย่างเดียว โดยแพทย์จะฉีดน้ำยาที่ประกอบไปด้วยยาชาและยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัวเข้าไปก่อนการดูดไขมัน หรือเรียกว่า สารทูเมสเซนต์ (tomescent)  แล้วสอดเข็มเข้าไปที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนังแล้วใช้แรงมือกระทุ้งให้ไขมันแตกตัวออกจากกัน จากนั้นจึงใช้ไซริ้งค์ (Syringe) ดูดไขมันออกมา ด้วยวิธีการ ดูดไขมันที่ใช้แรงกระแทกนี้ ข้อดีคือ ไขมันที่ได้จะสมบูรณ์ที่สุด และการดูดไขมันโดยวิธีนี้ทำให้ได้ไขมันสมบูรณ์กว่าวิธีอื่นด้วยเช่นกัน จึงสามารถนำไขมันนี้ไปสกัดเข้ากระบวนการปั่นกรองและนำมาฉีดเติมไขมัน บนใบหน้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ข้อเสียคือ ใช้แรงแพทย์ในการดูดไขมันมาก

 

 

ไขมันส่วนไหนของร่างกายที่นิยมดูด 

     ในทางการแพทย์ การศัลยกรรมดูดไขมันไม่สามารถดูดไขมันได้ทุกส่วนของร่างกาย เพราะ ในบางจุด บางบริเวณมีตำแหน่งที่ทำให้เกิดความเสี่ยงสูงและอันตราย ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้เทคนิคดูดไขมัน   บริเวณที่นิยมดูดไขมัน ได้แก่ หน้าท้อง เอว ต้นขา ต้นแขน และสะโพก เหนียง เป็นต้น  ในส่วนของใบหน้าเหนือกรามเป็นบริเวณที่ไม่ควรดูดไขมัน เพราะมีเส้นประสาทจำนวนมาก รายละเอียดในบริเวณที่นิมยมดูดไขมัน

 

 

ข้อควรรู้ก่อนเข้ารับการดูดไขมัน  

     ข้อควรปฏิบัติก่อนเข้ารับศัลยกรรมดูดไขมัน สำคัญคือ แจ้งข้อมูลสุขภาพกับแพทย์อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น  ปัญหาสุขภาพ  โรคติดต่อ  โรคประจำตัว รวมไปถึง ประวัติการผ่าตัดและการได้ยาระงับความรู้สึก  ปัญหาเกี่ยวกับฟัน  อาการการแพ้ยา / แพ้อาหาร เป็นต้น ก่อนเข้ารับการดูดไขมัน ควรอาบน้ำชำระร่างกาย พร้อมทั้งสระผมให้สะอาด  ห้ามทาเล็บ ในกรณีดมยาสลบ ควรงดน้ำและอาหาร ก่อนผ่าตัดตามแพทย์สั่ง เพื่อป้องกันการสูดสำลักน้ำย่อยหรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าไปสู่ปอดระหว่างการได้รับยาระงับความรู้สึก ถ้าคนไข้เป็นผู้หญิงควรหลีกเลี่ยงช่วงมีประจำเดือน  ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท รวมทั้งลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลมากด้วย  และ ควรงดยาละลายลิ่มเลือดและอาหารเสริม 7วัน ก่อนทำหัตถการ ที่สำคัญควรงดยาบางชนิดตามแพทย์สั่ง

 

 

ข้อควรรู้หลังเข้ารับการดูดไขมัน

     ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการดูดไขมันก็คือการ กำจัดไขมันออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว  แต่ไม่สามารถทำให้น้ำหนักลดลงอย่างถาวร ดังนั้น เมื่อรูปร่างลดขนาดลงแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานก็จำเป็นเพื่อให้สอดคล้องกับผลลัพธ์ในการดูดไขมันด้วย   อีกความเข้าใจหนึ่งที่ควรรู้หลังการดูดไขมัน คือ ไม่ได้ทำให้กระเพาะอาหารเล็กลง จึงทำให้อัตราการกินจึงไม่ได้เปลี่ยนไป ส่งผลให้สามารถรับประทานอาหารได้ในปริมาณเท่าเดิม สำคัญจึงต้องระวังและควบคุมปริมาณอาหารให้พอเหมาะ พร้อมทั้งออกกำลังกายควบคู่ไปหด้วยอย่างสม่ำเสมอ เน้นรับประทานอาหารจำพวกผักและผลไม้ เพื่อที่จะให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด หวานมาก รวมไปถึง อาหารประเภท ของทอด ของมัน และปรับลดปริมาณการทานแป้งในแต่ละวันให้น้อยลง เพียงเท่านี้ก็จะมีหุ่นสวยพร้อมสุขภาพดีไปตลอด  นอกจากนี้หลังการดูดไขมัน งดการทำกิจกรรมหนักๆ ประมาณ 1 สัปดาห์ อย่าสัมผัสหรือรบกวนบริเวณที่เป็นแผล ห้ามนวด ห้ามกดทับ เพราะอาจทำให้แผลหายช้าและอักเสบบวมได้หากบริเวณที่ทำการดูดไขมันเป็นจบริเวณที่เสี่ยงจะโดนน้ำ แนะนำให้งดการอาบน้ำในช่วงแรก  นอกจากนี้ควรสวมใส่ชุดกระชับสัดส่วนอย่างต่อเนื่องหลังจากทำการดูดไขมันเพื่อช่วยให้ร่างกายของเรายกกระชับมากขึ้น ควรสวมใส่ชุดยกกระชับ จนกว่าจะครบกำหนดเวลาตามคำแนะนำของแพทย์

 

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่เกิดจากการดูดไขมัน

     อย่างที่ทราบกันดี การเข้ารับผ่าตัดทุกชนิดย่อมมีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการคัดเลือกผู้รับบริการที่เหมาะสม  ศัลยแพทย์มีประสบการณ์และความชำนาญสูง อุปกรณ์พร้อมสมบูรณ์ และผู้รับบริการได้ทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นแพทย์ผู้มีความชำนาญอย่างมาก ผลของการดูดไขมันก็อาจจะมีที่ไม่พึงพอใจบ้าง เช่น ผิวหนังไม่เรียบ โดยเฉพาะผู้ที่ผิวหนังไม่ยืดหยุ่น การเสียเลือด, ติดเชื้อ, ผิวหนังเขียวช้ำ,เกิดอาการชา,เกิดแผลเป็น,มีน้ำสะสมใต้ผิวหนัง   ข้อดีข้อเสีย นอกจากจะเกิดจากร่างกายของคนไข้ อาจเกิดตามความถนัดของแพทย์แต่ละท่านที่ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ต่างกัน  บางทีจึงจะเห็นแพทย์บางท่านใช้อุปกรณ์หลากหลายชนิดร่วมกัน นั่นก็เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดแก่คนไข้  ส่วนสำคัญของการดูดไขมันออกมาให้ดี เกิดความสวยงาม  นั่นก็คือประสบการณ์ของแพทย์ เพราะการดูดไขมันเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝน เน้นความชำนาญ  ความแม่นยำไม่ได้เกิดจากอุปกรณ์ที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเกิดจากการอดทนฝึกฝนทำซ้ำๆหลายๆครั้ง จนเกิดความเชี่ยวชาญเฉพาะทางอย่างแท้จริงอีกด้วย

 

 

ทำไมต้องดูดไขมันที่ DR.CHEN Clinic 

DR.CHEN Clinic เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการดูดไขมันและการเติมไขมัน โดยตรงจากประเทศเกาหลีใต้ (LIPOSUCTION & FAT TRANSFER FOR FACE & BODY UNDER LOCAL)  คุณหมอเชนมีประสบการณ์การดูดไขมันพร้อมร้อยไหมยกกระชับและเติมไขมันมาแล้วหลากหลายเคส เน้นด้านการปรับรูปร่างโดยเฉพาะจึงมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังใช้เทคนิคเกาหลี ในการออกแบบปรับเปลี่ยนรูปร่างสัดส่วนให้กับคนไข้ด้วยตนเองทุกเคส ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการดูดไขมัน พร้อมร้อยไหมยกกระชับ ให้รูปร่างเพรียวสวย ดูเป็นธรรมชาติ  อีกทั้งยังชำนาญด้านเทคนิคการเติมไขมันบริเวณใบหน้า เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก พักฟื้นไม่นาน เน้นดูดไขมันในปริมาณที่เหมาะสม รูปร่างสวยดั่งใจตามที่คนไข้ต้องการ ปลอดภัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกขั้นตอน ห้องผ่าตัด  สะอาด  ติดตามผลและดูแลหลังทำหัตถการทุกเคสอย่างใกล้ชิด 

 

 





บทความที่เกี่ยวข้อง